บีเอ็มดับเบิลยู M2 สุดยอดรถยนต์ในดวงใจของแฟน ๆ ตระกูล M มาพร้อมตัวเลือกใหม่ในการปรับแต่งสไตล์การขับขี่ที่ตรงใจคุณที่สุด ตัวถังภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำสไตล์ M และเสริมความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant) ชุดเบรก M Compound สีแดงเงา และหลังคา M Carbonนอกจากจะเปิดให้ปรับตัวเลือกชุดแต่งได้ดั่งใจต้องการ ยังเพิ่มตัวเลือกใหม่ เอาใจสายสปอร์ตเต็มตัวที่ชอบอารมณ์ของการขับขี่แบบคลาสสิก ด้วยตัวเลือกแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือนักซิ่งที่รักความสปอร์ตสุดขั้วด้วยตัวเลือกแพ็คเกจ M Race Track ที่เพิ่ม M Driver’s Package มาพร้อมเบาะนั่งสไตล์สปอร์ต M carbon ทรง Bucket Seat และระบบ M Driver ที่สามารถปลดล็อคความเร็วสูงสุดได้ถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รูปที่2
ภายในอวดโฉมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient light) หลังคาภายในดีไซน์ M Headliner สีดำ Anthracite และคอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual เสริมลุคที่แตกต่างภายในห้องโดยสารด้วยการตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M สามารถปรับแต่งความสะดวกสบายให้แก่ประสบการณ์การขับขี่ด้วย Comfort access จุดวางอุปกรณ์มือถือ และกาบบันไดดีไซน์ M แบบเรืองแสง ทั้งยังมาพร้อมกับพวงมาลัยสไตล์คาร์บอนที่มาพร้อมกับเกียร์ Paddle Shift (เฉพาะรุ่น M Race Track)
เบาะนั่ง M Carbon ทรง Bucket Seat ในแพ็คเกจ M Race Trackหัวใจของบีเอ็มดับเบิลยู M2 คือขุมพลังเบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ส่งพลังสูงสุด 338 กิโลวัตต์ / 460 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,650 – 5,870 รอบต่อนาที โลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 4.1 วินาที ส่งความเร็วสูงสุด 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับแพ็คเกจ M Race Track และภายใน 4.3 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู M2 พร้อมแพ็คเกจ M Race Track มาพร้อมสมรรถนะแบบไดนามิกที่ผสานเข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังร่วมกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogicส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เพิ่มการเปลี่ยนเกียร์ให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยระบบการเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรง พร้อมความสามารถในการลดเกียร์ลงหลายระดับจนถึงเกียร์ต่ำสุด ระบบส่งกำลังพื้นฐานนี้มีส่วนสำคัญในการเร่งความเร็วแบบทันทีทันใดได้อย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ M Drive Professional ช่วยเสริมความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น มาพร้อมระบบเฟืองท้าย M Sport เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเปลี่ยนเลนหรือเร่งความเร็วออกจากโค้ง และเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ต พร้อมอวดโฉมล้อแม็กซ์สไตล์ 930 M ลาย Double Spoke ด้วยขนาด 19 นิ้วในล้อหน้า และขนาด 20 นิ้วในล้อหลัง
BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลสำหรับคนขับที่ทันสมัยผ่านจอโค้ง BMW Curved Display ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมระบบความบันเทิงและการสื่อสารล้ำสมัยด้วยจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ ระบบ BMWConnectedDriveและ BMW Connected Package Professional ยังนำเสนอคุณสมบัติและบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้นนอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ล้ำสมัย อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นStop&Go(ในรุ่น M Race Track) รวมถึงระบบ Driving Assistant และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติในทั้งสองรุ่น
บีเอ็มดับเบิลยู M2 มาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีฟ้า Zandvoort Blue Solid, สีขาว Alpine White, สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีดำ Black Sapphire Metallic และสีแดง Toronto Red Metallic ลูกค้าสามารถทำการจองบีเอ็มดับเบิลยู M2 ได้ทางออนไลน์ ผ่าน https://shop.bmw.co.th และยังสามารถเลือกปรับแต่งสีภายนอก ภายใน รวมถึงตัวเลือกล้ออีก 2 ตัวเลือก ได้แก่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M ลาย 930 M Double Spoke แบบสลับสี หรือสีดำ Jet Blackบีเอ็มดับเบิลยู M2 พร้อม Manual Transmission ราคาจำหน่าย: 6,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)บีเอ็มดับเบิลยู M2 พร้อมแพ็คเกจ M Race Trackราคาจำหน่าย: 6,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)