เติบโตขึ้นเรื่อยๆสำหรับ F ซีรี่ส์ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งรถในตระกูลนี้จะเป็นFunduroที่เน้นความสนุกสนานในการขับขี่ ถือกำเนิดจากการเข้าไปมีความสัมพันธ์กันกับค่ายโรเเท็กซ์ จึงได้F650ขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนปัจจุบันก็จะมี F 900เป็นรุ่นล่าสุด
F 900 XR ใหม่ นับเป็นที่สุดของมอเตอร์ไซค์ในตระกูลแอดเวนเจอร์สปอร์ตที่มีสมรรถนะอันโฉบเฉี่ยว ตำแหน่งการขับขี่ี่แบบนั่งตรงสไตล์ GS เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความทรงพลัง เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR อยู่ที่การสืบทอดดีไซน์และคอนเซปต์ของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล XR ที่ผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว และยังมาพร้อมระบบ Keyless Ride ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในมอเตอร์ไซค์ระดับกลาง
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีในการขับขี่ที่ล้ำสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ โดยจะควบคุมและเปลี่ยนแปลงกำลังของเอนจิ้นเบรคตามสภาพการยึดเกาะของถนนและ Riding Mode ที่เลือกใช้งานอยู่ในขณะนั้น
ระบบเบรก ABS Pro ที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดนำมาติดตั้งในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซส์เป็นครั้งแรก มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้เบรกหน้าแบบฉับพลันในจังหวะที่รถเอียงอยู่ในการเลี้ยวโค้งโดยไม่เสียเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ที่ช่วยตัดกำลังขับและแรงดึงแปรผันจากเครื่องยนต์ในจังหวะที่ผู้ขับขี่ใช้เบรกแบบฉับพลัน จึงชะลอความเร็วหรือหยุดรถได้เต็มประสิทธิภาพในเวลาน้อยที่สุด
ระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังและการยกตัวของล้อหน้าในจังหวะเปิดคันเร่งแบบฉับพลัน ป้องกันการยกตัวของล้อหลังในทุกสภาวะการขับขี่ ซึ่งจะเปลี่ยนค่าการทำงานตามโหมดการขับขี่และองศาการเอียงของรถใน Riding Modes Pro ที่ผู้ขับขี่ใช้ในขณะนั้น
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แถวเรียงสองสูบที่ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ที่เพิ่มความจุขึ้นเป็น 895 ซีซี จากเดิม 853 ซีซี พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศาให้กำลัง 99 แรงม้า8,500รอบ/นาที แรงบิด 88 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที
ระบบเก็บเสียงแบบใหม่ให้เสียงที่ทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้นมาพร้อมระบบคลัทช์แบบ anti-hopping เพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่ ขณะรถวิ่งสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เลยโดยไม่ต้องกำคลัทช์ทำให้รอบเครื่องยนต์ไม่ตกเรียกกำลังมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ใหม่ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ รวมทั้ง Riding Modes Pro เพื่อยกระดับความสปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้น เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS Pro และระบบ ASC (Automatic Stability Control) ซึ่งสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ พร้อมระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) และระบบ Dynamic ESA
เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ GS ในตระกูล F-Series บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR มาในโครงสร้างเฟรมเหล็กกล้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่เครื่องยนต์และถังน้ำมันซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าคนขับเป็นถังน้ำมันขนาด 15.5 ลิตร โดยถังน้ำมันมีน้ำหนักเบาผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยพลาสติกที่นำมาใช้ในการผลิตมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก โดยฝาถังน้ำมันจะใช้การล็อคอัตโนมัติแบบรถยนต์จึงไม่ต้องใช้กุญแจไขเปิดให้ยุ่งยาก
การควบคุมล้อหน้าตอบสนองได้อย่างฉับไวด้วยโช้คแบบหัวกลับ ส่วนล้อหลังควบคุมด้วยสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมพร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Central Suspension strutและระบบช่วงล่างไฟฟ้า Dynamic ESA ตรวจจับน้ำหนักบรรทุกในขณะขับขี่เพื่อปรับระดับของระบบช่วงล่างให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์
โครงสร้างการยึดเหล็กกล้าส่วนท้ายรถก็ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานรองรับการติดตั้งกล่องใส่สัมภาระเพิ่มเติมได้เป็นครั้งแรกในมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จึงทำให้ส่วนท้ายรถมีรูปลักษณ์ที่เพรียวและสั้นยิ่งขึ้นเพื่อเน้นการขับขี่ที่นุ่มสบายและหลากหลายกว่าในสไตล์แบบทัวริ่ง
ชุดแฟริ่งด้านหน้าที่มาพร้อมกระจกกันลมปรับระดับได้มอบทั้งลุคสปอร์ตและการป้องกันให้แก่ผู้ขับขี่ระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) พร้อมระบบ Headlight Pro นอกจากจะสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ยิ่งขึ้นแล้ว ยังนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซส์ ทำให้การขับขี่เวลากลางคืนมีความอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าส่องสว่างตามการเลี้ยวโค้ง และหลอดไฟ LED ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมอเตอร์ไซค์ในตระกูล F-Series ทุกรุ่น
เบาะนั่งแบบชิ้นเดียวแต่ยกระดับให้สูงขึ้นทางด้านหลังให้ความสปอร์ตและความสบายสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ระยะไกล เป็นเบาะนั่งที่สูง825มม.ทำให้สามารถวางเท้าได้เต็มที่กับพื้นได้ความมั่นคงตอนจอดรถนิ่งๆ
นอกจากนี้ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู F 900 R และบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ยังมีหน้าจอ TFT สีขนาด 6.5 นิ้วและระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedRide เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งในรุ่นท็อปสุดนี้ยังมีแท่นยึดสำหรับอุปกรณ์นำทางมาให้พร้อม