แม้ปี พ.ศ. 2565 จะเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ แต่ด้วยการคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ ทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดสินเชื่อรวมได้ถึง 4% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2564 การสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า การบริการระดับคุณภาพ ความรวดเร็วในการให้บริการ รวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์และการบริการที่โดดเด่นและหลากหลาย คือสิ่งที่ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย แตกต่าง
ลูกค้าเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ หรือมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จำนวนมากเกินกว่าครึ่งให้ความไว้วางใจและเลือกรับบริการทางการเงินจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2565 ประสบการณ์ลูกค้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อ้างอิงจากผลการประเมินคะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (NPS Score) ซึ่งพบว่าคะแนนประสบการณ์ลูกค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 8 คะแนน และคะแนนด้านการดูแลลูกค้า (Customer Care) เพิ่มขึ้นถึง 23 คะแนน ในขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังสร้างผลงานที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อรถยนต์มือสองซึ่งเติบโตกว่า 13% ปีต่อปี ขณะที่มีอัตราการเข้าถึงตลาดลูกค้าองค์กรกว่า 65% สะท้อนถึงความไว้วางใจและความสำเร็จในกลยุทธ์การคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย มุ่งมั่นเสมอมา
นอกจากนั้น ในปี พ.ศ. 2565 บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังลงทุนเพิ่มเติมเพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้าด้านดิจิทัล ผ่าน ‘MyBMW Finance’ และ ‘MyMINI Finance’ ให้ลูกค้าเข้าถึงสัญญาทางการเงินและบริการอื่น ๆ ได้ทุกเมื่อตามต้องการ การเข้ารับบริการของลูกค้าได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นตลอดทั้งเส้นทางด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันทางการเงินออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้ายืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลได้ (National Digital ID – NDID) บริการดิจิทัลดังกล่าวส่งผลให้ลูกค้าสามารถสมัครบริการทางการเงินได้โดยตรงผ่าน BMW Thailand Web Shop จึงช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกขึ้นอีกขั้น