บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการงานขนส่งรายใหญ่ ในเขตภาคกลาง เดินหน้าสั่งซื้อ ยูดี เควสเตอร์ จำนวน 14 คัน เพื่อรองรับแผนการขยายงานในปีนี้ และเป็นการตอกย้ำการเติบโตธุรกิจของบริษัทฯ ที่เติบโตทุกปี ตลอด 19 ปีที่ดำเนินธุรกิจ โดยปีนี้กำหนดเป้าการเติบโตด้วยการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มลูกค้ารายใหม่ ยักษ์ใหญ่วงการวัสดุก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในต้นปี 2568
นายพิเชษฐ์ สมานไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดซื้อรถหัวลากยูดี รุ่นเควสเตอร์ ยูโร 5 (350 แรงม้า) จำนวน 14 คัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับฟลีทรถในการรุกตลาดโลจิสติกส์ในปีนี้ โดยการซื้อครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ที่เริ่มใช้รถจาก ยูดี ทรัคส์”สาเหตุที่เราตัดสินใจทดลองใช้ยูดี ทรัคส์จำนวนมากถึง 14 คัน เพราะงานขนส่งที่เราได้รับมอบหมายลูกค้ามีความต้องการรถขนส่งที่มีสมรรถนะที่ดี และต้องสอดคล้องกับแนวนโยบายสำคัญของลูกค้าที่มุ่งเน้นในเรื่องความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก ซึ่งยูดี ทรัคส์ ตอบโจทย์ของลูกค้าเราได้ทุกข้อ ทั้งในด้านคุณภาพสูงที่เน้นสมรรถนะ และความปลอดภัย เทคโนโลยีในระบบยูโร 5 ที่ใช้ระบบ SCR ที่ตอบโจทย์เรื่องการรักษา สิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงนโยบายในการบริหารฟลีทรถ โดยรวมทำให้ลูกค้ามั่นใจใช้บริการกับ บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด ” นายพิเชษฐ์ กล่าว
บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2548 ด้วยรถบรรทุกเพียง 2 คัน ด้วยการเข้าร่วมโครงการรถร่วมขนส่งสินค้าประเภทเหล็กให้กับกลุ่มบริษัทสหวิริยา ต่อมาได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการรถร่วมขนส่งสินค้าให้กับกลุ่มบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ ทำให้ บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และล่าสุด ได้รับความไว้วางใจให้รับงานตรงจาก บริษัท เบฟเชน โลจิสติกส์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มบุญรอดฯ ให้เส้นทางขนส่งในเส้นทางใหม่ๆ เพิ่มเติมจากงานปัจจุบัน
ปัจจุบัน บริษัท ห.เหมหงส์ จำกัด มีรถบรรทุกในฟลีทรวม 75 คัน และล่าสุดได้สังชื่อรถยูดี ทรัคส์ ยูโร 5 เพิ่มอีก 14 คัน ทำให้จำนวนรถบรรทุกในฟลีทรถเพิ่มขึ้นรวมกว่า 90 คัน โดยมีแผนขยายงานและพร้อมสั่งซื้อรถบรรทุกเพิ่มอีก คาดว่าในปี 2568 จำนวนรถจะทะลุระดับ 100 คัน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการขยายงานของบริษัท ฯ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายได้แก่วัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตด้านการเกษตร และอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาสแรกของปี 2568