บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (นิสสัน) และบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน (มิตซูบิชิ) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสำรวจความคิดริเริ่มร่วมกันในด้านยานยนต์ยุคใหม่ และบริการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มุ่งสู่การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคม และการสร้างชุมชนที่สดใสของระดับภูมิภาคในอนาคต ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อาทิ การขาดแคลนคนขับรถยนต์เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง รวมถึงความยากลำบากในการดูแลรักษาบริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ที่ลดลง นิสสัน และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน ได้ดำเนินโครงการริเริ่มต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ท้าทายเหล่านี้
โครงการริเริ่มของนิสสัน ได้แก่ การบริการด้านการสัญจรในเมืองนามิเอะ จังหวัดฟุกุชิมะ และการทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติในเขตมินาโตะ มิไร ในเมืองโยโกฮามา เพื่อให้ผู้คนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น นอกจากนี้ นิสสันกำลังพัฒนาระบบการจัดการพลังงานโดยใช้ฟังก์ชันการจัดเก็บแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และการถ่ายเทพลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (renewable energy) ด้าน มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน ได้ร่วมมือกับพันธมิตร และรัฐบาลท้องถิ่น จัดการกับความท้าทายทางสังคม และอุตสาหกรรม ผ่านโครงการริเริ่มที่มุ่งเน้นที่ (1) การใช้ทรัพยากรพลังงานในภูมิภาครวมถึงพลังงานหมุนเวียนที่นำกลับมาใช้ใหม่ (2) การบรรลุความเป็นกลางคาร์บอน (carbon neutrality) และ (3) การสร้างสิ่งที่น่าสนใจให้กับชุมชนด้วยการแก้ปัญหาในท้องถิ่น ขณะที่ในภาคการคมนาคม มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน ได้ขยายมาตรการเพื่อปรับปรุงความท้าทายด้านการขนส่งผ่านการใช้งานการขนส่งตามความต้องการจากปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) สำหรับรัฐบาลท้องถิ่น และบริษัทเอกชน ซึ่งรวมถึงริเริ่มการสาธิต การขับขี่อัตโนมัติโดยใช้ ดิจิทัล โซลูชัน ที่เมืองชิโอจิริ ในจังหวัดนากาโนะ (Shiojiri City, Nagano Prefecture)
ประเด็นทางสังคมในระดับภูมิภาคคาดว่าจะมีความท้าทายมากขึ้น สิ่งเหล่านี้บางส่วนรวมถึงผู้คนที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านการคมนาคมที่เพิ่มขึ้น บริการที่จำเป็นลดลง ความสัมพันธ์ในชุมชนที่อ่อนแอลง รวมถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัตินิสสัน และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างเทคโนโลยี และรูปแบบการบริการใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายเฉพาะภูมิภาคเหล่านี้ และฟื้นฟูชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ และช่วยเหลือสังคม พวกเขาได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าที่จะร่วมกันให้บริการด้านการเดินทางแห่งยุคถัดไป และบริการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มตั้งแต่ในญี่ปุ่น