หลังจากได้มีโอกาสขับนิสสัน คิกส์ในสนามปทุมธานีสปีดเวย์กันไปแล้ว คราวนี้ทางนิสสันได้เปิดโอกาสห้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบการขับขี่ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ในสภาพการใช้งานจริงเต็มรูปแบบด้วยระยะทางกว่า 450 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯสู่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีสภาพเส้นทางครบทุกรูปแบบ เพื่อให้สื่อมวลชนได้ประสบการณ์ของรถคอมแพ็ค เอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนที่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก
เป็นอีกความโดดเด่นของ นิสสัน คิกส์ คือ “สีสัน” ด้วยสีภายนอกที่มาในแบบทูโทน กับหลังคาสีดำเงา ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถเลือกการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วย สีทูโทน ดำ-ส้ม ที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องการความโดดเด่นในทุกมุมมอง
กับสภาพถนนที่มีหลากหลายรูปแบบของเส้นทางในการขับขี่ครั้งนี้ทำให้ได้ทดสอบทุกสรรถนะของเทคโนโลยีที่มีอยู่ในรถอย่าง นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลายโดยเฉพาะระบบ วัน-แพดเดิล ที่ไม่ต้องเหยียบเบรกทำให้การเข้าโค้งทำได้อย่างลื่นไหลไม่กระตุกลดอาการเมารถได้เป็นอย่างดีบนถนนลาดชันมีโค้งเยอะ แค่คุมคันเร่งดีๆพอยกคันเร่งจะอาศัยแรงหน่วงจากมอเตอร์ให้กลายเป็นเบรกไปในตัว
กำลังในการขับเคลื่อนเหนือกว่าเครื่องยนต์1.8ลิตรด้วยซ้ำไปเพราะมาพร้อมแรงบิดสูงที่ขับเคลื่อน นิสสัน คิกส์ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่เพื่อเรียกอัตราเร่งขึ้นมาได้ทันท่วงทีและต่อเนื่อง จึงเหมาะสมกับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ทำให้สัมผัสได้ถึงความเร้าใจและนุ่มนวลไปพร้อม ๆ กับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
การทดสอบในครั้งนี้ได้ขับข้ามภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งการจราจรที่มีรถหนาแน่นในกรุงเทพฯ ผ่านทางหลวงสายหลักที่มี 4 ช่องจราจร หรือทางหลวงชนบทข้ามภูเขาเพียง 2 ช่องจราจรที่ต้องเดินรถสวนทางกันตลอด ไปจนถึงภูมิประเทศแบบธรรมชาติที่มีทัศนียภาพเป็นภูเขาของจังหวัดราชบุรีและจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเส้นทางที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการปลีกเวลาจากความวุ่นวายในเมือง และยังเป็นเส้นทางที่สามารถแสดงสรรถนะของรถยนต์ทุกคันได้เป็นอย่างดี
ด้วยเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ยังมาพร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่มากกว่าในรถยนต์ระดับเดียวกันอย่าง นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี รวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่คือคุณสมบัติที่แท้จริงรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งแสดงออกถึงสมรรถนะที่ดีกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ผสานกับความเร้าใจในการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวไปอีกขั้น
กำลังที่มีให้ในรถรุ่นนี้สูงสุดที่ 95 กิโลวัตต์หรือ 129 แรงม้า และแรงบิดแสูงสุดแบบต่อเนื่องถึง 260 นิวตันเมตร จึงให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 10 วินาที การเร่งแซงจึงทำได้อย่างมั่นใจและง่ายดาย
นอกจากนั้นยังมีสมรรถนะในการควบคุม หรือ Handling ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าและออกโค้งขนาดเล็กรวมถึงพื้นที่แคบได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะที่ใช้ระบบ วัน-แพดเดิล พร้อมช่วงล่างที่ถูกปรับตั้งเพื่อให้ทั้งความสบายและนุ่มนวล นอกจากนี้ในเส้นทางตามทิวเขา และถนนที่มีความขดเคี้ยวไปมา ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของระบบวัน-แพดเดิล เอกสิทธิ์เฉพาะของ นิสสัน ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้ด้วยเพียงการควบคุมที่แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว ทำให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย ทั้งในสถาณะการณ์ที่การจราจรติดขัดในเมืองหรือการเข้าโค้งรูปแบบต่างๆ
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์มี4 โหมดการขับขี่ที่เหมาะใช้งานของผู้ขับ ไม่ว่าจะต้องการความสะดวกสบาย หรือความสนุกสนาน ได้แก่ Normal โหมด, Smart โหมด, Eco โหมด, และ EV โหมดที่เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวมาใช้ขับเคลื่อน จึงให้ความเงียบ และความนุ่มนวลไม่ต่างไปจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ
ในการเดินทางได้สัมผัสกับห้องโดยสารที่มีความเงียบ แม้เดินทางอยู่ในย่านความเร็วสูงระหว่างการทดสอบขับขี่ในระหว่างทดสอบจากเส้นทางทดสอบระยะทางไกลกว่า 450 กิโลเมตรอยู่ก็ตาม อีกทั้งยังได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่จัดวางหน้าจอแสดงผลที่หน้าปัดขนาดใหญ่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ ขนาด 8 นิ้ว
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ยังเน้นการเชื่อมต่อที่สะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ด้วยระบบ Nissan Connect ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายด้วยหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟนอย่าง ระบบ Apple Car Play ใช้สำหรับระบบปฎิบัติการแบบ iOS โดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่า การเชื่อมต่ออัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Integration ได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ถูกนำเสนอขึ้นเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิต เพื่อทำกิจกรรมหลากหลาย และต้องเชื่อมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยระบบ Intelligent Integration นี้จะสามารถแสดงข้อมูล อาทิ ระบบนำทาง ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ภายใต้แพลตท์ฟอร์มเดียว ช่วยให้สามารถทำการเชื่อมต่อกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างง่ายดาย
พวงมาลัยทรง D-shape มาพร้อมกับเบาะนั่งที่รับกันพอดี ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด สำหรับการเดินทางไกล หรือจะเป็นเพียงการเดินทางสั้นๆในเมืองก็ตาม ห้องโดยสารจะถูกออกแบบและตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพและมีความประณีตในการผลิต โดยยังคงไว้ที่ความกว้างขวางในห้องโดยสาร
ในส่วนของพื้นที่วางเท้าที่นั่งด้านหลังนั้นมีขนาดที่กว้าง พร้อมเบาะนั่งที่รองรับผู้โดยสารได้3คนซึ่งจะมีเข็มขัดนิรภัยติดตั้งเอาไว้ทุกจุด จากความเอียงของพนักพิงเบาะหลังทำให้นั่งได้สบายพอสมควร
สำหรับการจัดเก็บสิ่งของติดต้วก็ยังมาพร้อมกับพื้นที่บรรทุกสัมภาระตอนท้ายที่มีขนาดใหญ่มีความสูงในพื้นที่จัดเก็บ90ซม. สามารถจัดมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้423ลิตร เหนือกว่าในรถระดับเดียวกัน
การเดินทางในครั้งนี้ยังได้สัมผัสกับความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี อาทิ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning system) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) และเทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking) ด้วยนวัตกรรมรอบด้านเหล่านี้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์ที่ไร้กังวลให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี