หลายคนเข้าใจว่าถ้าผ่อนรถไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ แค่คืนรถให้ธนาคารหรือไฟแนนซ์ที่ผ่อนชำระอยู่ ก็จะสามารถเคลียร์หนี้ได้หมด จบภาระ ไม่ต้องหาเงินผ่อนให้เหนื่อย แต่จริง ๆ แล้ว อาจไม่หมดหนี้อย่างที่คิด ซึ่งอาจทำให้เสียทั้งรถยนต์ไป และยังต้องผ่อนหนี้รถยนต์ต่อไปอีกนาน ทีทีบีไดรฟ์ จึงอยากแนะให้ผู้ที่ครอบครองรถอยู่ รอบรู้ในเรื่องนี้ ก่อนคืนรถให้ธนาคาร
เรื่องที่ต้องรู้เป็นอันดับแรก คือ การขอสินเชื่อจากธนาคาร เมื่ออนุมัติแล้วเท่ากับธนาคารเป็นผู้ออกเงินซื้อรถให้เราก่อนจึงจะได้รถยนต์ไปใช้ แล้วผ่อนชำระหนี้ให้ธนาคารตามสัญญา แต่หากวันหนึ่งสถานการณ์ทางการเงินของเราไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เกิดเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ไม่สามารถชำระค่างวดได้ดังเดิม การหยุดผ่อนรถจะทำให้ธนาคารต้องทำการยึดรถไป เพื่อนำไปขายทอดตลาดและนำเงินที่ได้จากการขายมาคำนวณเปรียบเทียบกับภาระที่ค้างอยู่กับธนาคาร หากธนาคารขายรถยนต์ได้มากกว่ายอดหนี้ ธนาคารจะทำการคืนส่วนต่างให้
แต่รู้หรือไม่ว่า การคืนรถยนต์ให้ธนาคาร อาจจะยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะบางรายภาระอาจจะจบลง แต่ยอดหนี้ไม่ได้หายไป ทำให้เราต้องผ่อนชำระหนี้ต่อกับธนาคาร
หากปล่อยให้ธนาคารยึดรถเพราะไม่อยากผ่อนชำระต่อ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะจบปัญหาเรื่องหนี้สินได้ แถมยังมีความเสี่ยงที่จะต้องหาเงินมาชำระเพิ่มในส่วนที่เป็นหนี้ที่เหลือและยังเสียประวัติด้านเครดิตอีกด้วย ดังนั้นในกรณีที่ผ่อนค่างวดรถยนต์ต่อไม่ไหว รู้สึกว่าเงินตึงมือ เริ่มมีปัญหาทางการเงิน ไม่ควรปล่อยให้ผิดนัดชำระเกิน 3 ครั้ง อันดับแรกควรรีบติดต่อกับทางธนาคารเพื่อหาทางออกในการผ่อนรถร่วมกันอย่างเร็วที่สุด ซึ่งธนาคารจะมีวิธีช่วยลูกค้าในเรื่องของการผ่อนชำระ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ การยืดระยะเวลาการผ่อนให้ยาวขึ้น และชำระต่อเดือนจำนวนน้อยลง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าไม่ถูกยึดรถ และสามารถนำรถไปใช้ทำงานหรือทำธุรกิจได้เหมือนเดิม
สำหรับคนที่รู้สึกเริ่มผ่อนต่อไม่ไหว อาจจะนำรถมารีไฟแนนซ์กับทางทีทีบีไดรฟ์ เพื่อจะได้ผ่อนต่อเดือนน้อยลง ทำให้ภาระต่อเดือนก็น้อยลงไปด้วย มีเงินเหลือใช้จ่ายเพิ่มเติม ลดความกังวลเรื่องหนี้ไปได้มาก ซึ่งธนาคารพร้อมช่วยหาทางออกและลดภาระให้กับลูกค้า เพื่อส่งเสริมให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต