ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2567 มียอดขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 15,559 คัน ชะลอตัวที่ 29.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยอดขาย 22,132 คัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 39.9% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 13,347 คัน ลดลง 42% และในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 12,243 คัน ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 32% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด รถยนต์ HEV ทำยอดขายได้ 7,300 คัน ลดลง 21% ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 4,130 คัน ลดลง 47%
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนตุลาคม แต่คาดว่าอัตราการเติบโตยังคงลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ และโปรโมชันการขายที่น่าสนใจจากหลากหลายค่ายรถยนต์ ที่จะถูกนำเสนอใน “งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024” ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปี
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2567
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,162 คัน ลดลง 27.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,092 คัน ลดลง 44.4% ส่วนแบ่งตลาด 16.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,137 คัน ลดลง 43.4% ส่วนแบ่งตลาด 11%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,559 คัน ลดลง 29.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,210 คัน ลดลง 27.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.5%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,359 คัน ลดลง 3% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,439 คัน เพิ่มขึ้น 93.7% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 22,132 คัน ลดลง 39.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,952 คัน ลดลง 27.3% ส่วนแบ่งตลาด 45%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,092 คัน ลดลง 44.4% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,316 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 5.9%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 13,347 คัน ลดลง 42%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,787 คัน ลดลง 38% ส่วนแบ่งตลาด 43.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,204 คัน ลดลง 46.5% ส่วนแบ่งตลาด 39%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,316 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.9%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,451 คัน อีซูซุ 1,007 คัน – โตโยต้า 748 คัน – ฟอร์ด 509 คัน – มิตซูบิชิ 136 คัน – นิสสัน 51 คัน
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,896 คัน ลดลง 41.6 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,039 คัน ลดลง 34% ส่วนแบ่งตลาด 46.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,197 คัน ลดลง 49.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 807 คัน ลดลง 52.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 476,350 คัน ลดลง 26.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 182,380 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 71,361 คัน ลดลง 45.6% ส่วนแบ่งตลาด 15%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 62,448 คัน ลดลง 19.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 185,421 คัน ลดลง 23.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 54,033 คัน ลดลง 36.1% ส่วนแบ่งตลาด 29.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 37,340 คัน ลดลง 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 20.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 15,179 คัน เพิ่มขึ้น 13.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 290,929 คัน ลดลง 28%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 128,347 คัน ลดลง 5.4% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 71,361 คัน ลดลง 45.6% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 25,108 คัน ลดลง 15.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 166,851 คัน ลดลง 40.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 76,419 คัน ลดลง 30.2% ส่วนแบ่งตลาด 45.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 62,016 คัน ลดลง 47.4% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 17,420 คัน ลดลง 44.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 29,395 คัน โตโยต้า 10,282 คัน – อีซูซุ 10,203 คัน – ฟอร์ด 6,647 คัน – มิตซูบิชิ 1,889 คัน – นิสสัน 374 คัน
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 137,456 คัน ลดลง 39.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 66,137 คัน ลดลง 27% ส่วนแบ่งตลาด 48.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 51,813 คัน ลดลง 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 10,773 คัน ลดลง 49.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%