Ducati Multistrada ได้รับความนิยมจากดูคาทีสต้าทั่วโลกตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่ผ่านมา ทำให้มียอดการผลิตมากกว่า 110,000 คัน ความสมบูรณ์แบบทั้ง Performance และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ทำให้ Ducati Multistrada V4S รุ่นล่าสุดนี้ ถือกำเนิดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตที่ให้ความสะดวกสบายที่สุด ลุยได้ทุกสภาพถนนและให้ความปลอดภัยแบบจัดเต็ม นั่นจึงเป็นจุดกำเนิด Multistrada คันแรกขึ้นในปี 2003 คำว่า Strada ในภาษาอิตาเลียน แปลว่า ถนน พอนำมารวมกับคำว่า Multi นั่นเลยแปลว่า “รถคันนี้สามารถลุยได้ทุกสภาพท้องถนน” ในปี 2021 ดูคาติได้คิดค้นสุดยอดนวัตกรรมเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องยนต์ Desmosedici stradale นั่นก็คือเครื่องยนต์ Ducati V4 Granturismo Engine ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีความแรงตามเอกลักษณ์ของดูคาติ มาพร้อมความปลอดภัยและความแข็งแกร่งมากที่สุด
หัวใจสำคัญของ Multistrada V4S คือ เครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของดูคาติ V4 Granturismo เทคโนโลยีในสนามแข่ง ถูกถ่ายทอดสู่เครื่องยนต์สี่สูบ desmocidesi Stradale V4 ที่ถูกติดตั้งในสุดยอดรถสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อย่างเช่น Streetfighter V4 และ Panigale V4 เครื่องยนต์ V4 Granturismo ถูกติดตั้งให้เป็นหัวใจหลักในรถรุ่นใหม่ของดูคาติอย่าง Multistrada V4 / V4S กับวาล์วระบบใหม่อย่าง Spring valve return system ที่แข็งแรงทนทานง่ายต่อการเซอร์วิสและสามารถยืดอายุของการเซอร์วิสตั้งวาล์วไปถึง 60,000 กม. หรือมากกว่าเครื่องยนต์บล็อกเก่าอย่างเครื่องยนต์ DVT 1260 L-Twin ถึง 2 เท่า! อีกทั้งขนาดของเครื่องยนต์ยังมีขนาดที่เล็กลง และน้ำหนักเบาลงถึง 1.2 กก. ทำให้การจัดวางตำแหน่งของเครื่องยนต์เป็นไปได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เป็นการสร้างสมดุลของตัวรถทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากขึ้นอีกด้วย
ด้านปริมาตรความจุของเครื่องยนต์ ถูกเพิ่มขึ้นเป็น 1,158 cc แต่ถูกปรับจูนให้เหมาะกับรถ Sport Touring มากขึ้น ทำให้เมื่อใช้ความเร็วในรอบต่ำทำได้อย่างสมูทและราบรื่น ในขณะที่รอบกลางถึงรอบสูงนั้น มีสมรรถนะเทียบเท่ารถสปอร์ตเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถให้แรงบิดที่มากถึง 125 นิวตันเมตร และให้แรงม้าสูงถึง 170 แรงม้าที่ 10,500 รอบ ถือว่าเป็นรถ Sport Touring ที่แรงม้ามากที่สุดในโลกในขณะนี้ เท่านั้นยังไม่พอ เครื่องยนต์ Granturismo V4 ยังถูกอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากในสนามแข่งอย่าง ระบบการจุดระเบิดอย่าง Twin – pulse ที่ช่วยในแรงบิดที่ทรงพลังแต่ราบรื่น และระบบ Reverse rotating crankshaft เพลาข้อเหวี่ยงหมุนทวนเข็มนาฬิกา ที่ช่วยให้ตัวรถนั้นสามารถต้านแรง Gyroscope effect กับตัวรถ ส่งผลให้รถมีเสถียรภาพมากขึ้น ลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังส่งผลให้ผู้ที่ขับขี่รถ Ducati Multistrada V4S นั้น ควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้นอย่างที่ต้องการ
นอกจากเทคโนโลยีในสนามแข่งที่อัดแน่นอยู่ในเครื่องยนต์ Granturismo V4 แล้วนั้น ทางดูคาติยังคงใส่ใจต่อผู้ขับขี่มากขึ้นด้วยระบบ Rear cylinder deactivate ที่จะตัดการทำงานของทั้งสองสูบด้านหลังในรอบเดินเบา ส่งให้อัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงดีขึ้น อีกทั้งยังลดครามร้อนสะสมของห้องเครื่องยนต์และลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้ผู้ขับขี่เดินทางไปได้ในทุกสถานการณ์อย่างไร้กังวลอีกต่อไปซึ่งมีน้ำหนักเบาเพียง 66.7 กิโลกรัม ระบายความร้อนด้วยน้ำ จึงให้การขับขี่ที่นุ่มนวล เดินเรียบในรอบต่ำ แรงบิดมาได้ทันใจในรอบกลาง และทรงพลังในรอบสูง ค่าบำรุงรักษาต่ำ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 15,000 กิโลเมตร และที่สำคัญคือความทนทาน
Multistrada V4S ถูกออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง สวยงาม และพิถีพิถันในทุกรายละเอียด รวมถึง Monocoque frame เป็นเฟรมที่มักเห็นอยู่ในรถซุปเปอร์ไบค์ราคาสูงๆ เสมอ จุดเด่นของเฟรมโมโนค็อกนั้นเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากเฟรมรถทั่วไป ตรงที่ เฟรมโมโนค็อกนี้เป็นการหล่อขึ้นมาแบบชิ้นเดียวไม่มีจุดเชื่อมต่อใดๆ จึงทำให้มีความแข็งแรงมากที่สุด เพื่อรองรับได้กับทุกสภาพถนนและเพื่อให้ Ducati Multistrada V4S เป็นรถที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดดูคาติจึงได้หยิบนวัตกรรมนี้เข้ามาใช้กับ Ducati Multistrada V4S
ในภาพรวมจะเห็นว่า Ducati Multistrada V4S เป็นบิ๊กไบค์ที่สะท้อนความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีของดูคาติในทุกด้าน ทั้งความแรง ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ซึ่งดูคาติเป็นค่ายแรกของโลกที่นำระบบ Front and Rear Radar เทคโนโลยีควมคุมความเร็วอัตโนมัติมาติดตั้งในรถมอเตอร์ไซค์ โดยทำงานร่วมกับระบบ Adaptive Cruise Control ทำให้การขับขี่ทางไกลง่ายขึ้น ไร้กังวล และปลอดภัยกับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ซึ่งเรดาร์ตัวหน้า หรือ Front Radar ติดตั้งอยู่ตรงกลางของไฟหน้ารถ ในการลดความเร็วเมื่อเข้าใกล้วัตถุข้างหน้า สัญลักษณ์ Cruise Control จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และรถจะชะลอความเร็วลง และเมื่อสิ่งกีดขวางด้านหน้าพ้นจากระยะไปแล้วรถจะกลับมาเพิ่มความเร็วเท่าเดิม ขณะที่เรดาร์ตัวหลัง หรือ Blind Spot Detection ทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถ กรณีมีวัตถุเข้าใกล้รถจากทางด้านหลัง ไฟเตือนที่กระจกมองข้างจะกระพริบส่งสัญญาณทันที”
เทคโนโลยีความปลอดภัย ของ Ducati Multistrada V4S นั้นนับว่าล้ำหน้ามากๆ โดยดูคาติจัดมาให้เต็มและครบครัน ทั้งระบบ Cornering ABS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในโค้งให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น Ducati Traction Control ที่ควบคุมการสะบัดของล้อหลัง เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าความเร็วของล้อหลังมีมากกว่าล้อหน้า ระบบจะตัดลดความเร็วของล้อหลังลงอัตโนมัติทันที โดยที่ความเร็วไม่ลดลง เพื่อเป็นการป้องกันการสะบัด หรือปัดท้ายของตัวรถ
Ducati Multistrada V4S ตอบโจทย์การเดินทางทุกเส้นทาง และทุกสภาพถนน ด้วยโหมดการขับขี่ 4 โหมด คือ Travel, Enduro, Sport และ Urban ทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างไฟฟ้า Ducati Skyhook ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจาก Ducati Multistrada 950S นอกจากนี้ยังมี Ducati Wheelie Control ระบบควบคุมแรงบิด ช่วยในการออกตัวดูแลป้องกันการยกล้อ Ducati Quick Shift up / down ระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องกำคลัทช์และผ่อนคันเร่ง Vehicle Hold Control เมื่อต้องการออกตัวขณะที่รถหยุดนิ่งบนทางลาดชัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของตัวรถ เมื่อเกิดการลื่นไถลหรือสูญเสียการควบคุม ซึ่งระบบนี้จะเข้ามาช่วยผู้ขับขี่ได้ภายในเสี้ยววินาที
บทพิสูจน์ความเหนือชั้นทางเทคโนโลยีและประสบการณ์บนสนามแข่งของดูคาติ ที่ถูกถ่ายทอดสู่การใช้งานจริง ไปยังรถซุปเปอร์ไบค์ในกลุ่มพรีเมียมไม่ว่าจะเป็น Panigale V4/V4S, Streetfighter V4/V4S ซึ่งใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ และใช้เฟรมแบบ Monocoque ซึ่งเฟรมนี้ยังถูกส่งต่อไปถึงในรุ่น New Monster รวมไปถึงเทคโนโลยีและความแข็งแรงที่ดูคาติใส่มาใน Ducati Multistrada V4S
ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัทแม่ ดูคาติ ประเทศไทย ได้นำ Ducati Multistrada V4 / V4S ใหม่ เข้ามาจำหน่ายพร้อมเปิดจอง รวมทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลาย ในราคาพิเศษสุดๆ ดังนี้
Ducati Multistrada V4S ราคา 1,279,000 บาท
Ducati Multistrada V4 ราคา 990,000 บาท
Ducati Multistrada 950S ราคา 669,000 บาท