ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทั่วโลกเต็มไปด้วยความยากลำบาก และเกิดการชัตดาวน์ของสายการผลิต ดูคาติได้ปิดโรงงานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน จนส่งผลกระทบอย่างหนักในช่วง 6 เดือนแรก แต่ Ducati Motor Holding สามารถสร้างยอดขายช่วง 6 เดือนหลังส่งท้ายปี 2020 สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดูคาติสามารถส่งมอบรถในปี 2020 ได้ทั้งหมดที่ 48,042 คัน ซึ่งลดลงจากปี 2019 เพียง 9.7%
แนวโน้มตลาดบิ๊กไบค์โดยเฉพาะแบรนด์ดูคาติในประเทศจีนยังคงเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 4,041 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ถึง 26% ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของบริษัท Borgo Panigale นอกจากนี้ ดูคาติในประเทศเยอรมนียังมียอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.7% โดยมียอดขาย 5,490 คัน และสวิตเซอร์แลนด์มียอดขายเพิ่มขึ้น 11.1% ส่วนในอิตาลีคว้าอันดับ 1 ไปครองที่ยอดจำหน่าย 7,000 คัน ทั้งนี้ Streetfighter V4 คือรุ่นที่ทำยอดขายสูงถึง 5,730 คัน ในขณะที่ ดูคาติ สแครมเบลอร์ เป็นตระกูลรถที่ทำยอดขายรวมสแครมเบลอร์รุ่นต่างๆ ได้มากถึง 9,265 คัน
ฟรานเชสโก มิลิเซีย รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายขาย กล่าวเสริมว่า “ดูคาติทำผลงานได้ดีมากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 ด้วยยอดขาย 48,042 คัน โดยดูคาติมีอัตราการเติบโตในตลาดประเทศจีน เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์สูงขึ้นจากปีก่อน ซึ่งในปี 2020 นี้ ดูคาติยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเครือข่ายการขายทั่วโลกโดยพัฒนาโปรแกรม Ducati Cares เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการนำรถเข้ามารับบริการที่ตัวแทนจำหน่ายดูคาติ หรือทำการนัดหมายเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์ในรูปแบบดิจิทัล ตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่หยุดนิ่งที่จะคิดค้นพัฒนากลยุทธทางการตลาดที่ยังคงขยายการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีการเปิดตัวแทนจำหน่ายและดีลเลอร์แห่งใหม่ในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย”
แนวโน้มเชิงบวกในช่วงปลายปี 2020 สร้างความเชื่อมั่นให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของรถจักรยานยนต์ดูคาติในปี 2020 ที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีที่ตอบสนองลูกค้าจนมียอดการสั่งซื้อมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่วงต้นปี ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มมีการส่งมอบ Multistrada V4 รถจักรยานยนต์ที่มีการติดตั้ง Radar ทั้งหน้าและหลังคันแรกของโลก และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้แทนจำหน่ายดูคาติจะได้รับรถโมเดลปี 2021 รุ่นใหม่ๆ รวมถึง Panigale V4 SP, SuperSport 950, Monster และ Ducati Scrambler Night Shift