นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2565 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 848,589 คัน โดยซูซูกิมียอดขายรวมทั้งสิ้น 20,083 คัน SUZUKI SWIFT ยังคงเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงยอดนิยมของซูซูกิที่มีส่วนในการผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านที่ต่างยอมรับ และให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
สำหรับตลาดรถยนต์ในปี 2566 จากแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกต่างๆ เช่น การเปิดประเทศ การขาดแคลนชิ้นส่วนที่บรรเทาลงไป ราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว จึงคาดการณ์ว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 900,000 คัน มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา 5% ในส่วนของซูซูกิ ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2566 จำนวน 27,000 คัน นอกจากความมุ่งมั่นในการสร้างและเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าแล้ว ซูซูกิยังคงมั่งหวังที่จะตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการมอบแคมเปญสุดพิเศษ “SUZUKI SMART DEAL ดีลสุดสมาร์ทที่พลาดไม่ได้” ให้กับลูกค้า นอกจากเป็นการรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในช่วงต้นปี ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ของซูซูกิทุกรุ่นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงใจและหลากหลาย เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้าและงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็งพร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศเข้ามาร่วมเป็นเอ็กซ์คลูซีฟลีสซิ่ง ช่วยเรื่องการอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายและช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับซูซูกิ ได้แก่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)อย่างไรก็ตาม ซูซูกิมีความต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย เราจึงไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ซูซูกิเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”