ฉางอัน ออโตโมบิล แถลงเพิ่มเติมถึงแผนการลงทุน โดยจะเพิ่มอีก 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 825 พันล้านบาท) ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมภายในห้าปี โดยอยู่ภายใต้กลยุทธ์ “ยานยนต์ใหม่ + ระบบนิเวศใหม่ (New Auto + New Ecosystem)” การลงทุนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยี (Technology Ecosystem) และเร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ตลอดจนเพิ่มขีดจำกัดระดับความสามารถของเทคโนโลยีอัจฉริยะในด้านต่างๆ ภายในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และในขณะเดียวกันจะมีการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อพัฒนาและสร้างคอมมูนิตี้ที่เต็มไปด้วยทักษะและองค์ความรู้ทางด้านเทคนิค ทั้งนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล แถลงเพิ่มเติมว่า ภายในปี 2568 นี้ ตั้งเป้าจะสร้างยอดขายต่อปีทะยานสู่ 3 ล้านคัน โดยมีสัดส่วนของ xEV อยู่ที่ 35% และภายในปี 2573 ฉางอัน ออโตโมบิล จะขึ้นแท่นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำด้วยยอดขายมากกว่า 4.5 ล้านคัน ด้วย xEV โดยจะรวมถึงสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่ 60% และ 30% ตามลำดับ
ฉางอัน ออโตโมบิล มีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมชั้นสูง โดยนับตั้งแต่ปี 2560 บริษัทฯ ได้บรรลุและส่งมอบนวัตกรรมใหม่มากมาย ทั้งในแง่ของกลไลอัจฉริยะตลอดจนยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์พื้นฐาน “ยานยนต์ใหม่ + ระบบนิเวศใหม่ (New Auto + New Ecosystem)” ในส่วนของผลงานทางด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ฉางอันยึดมั่นหลัก Dubhe Intelligence Plan และ Shangri-La Plan โดยได้ลงทุนกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 49.5 พันล้านบาท) เพื่อให้ได้ครอบครองเทคโนโลยีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อัจฉริยะในระดับต่ำกว่า 500 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้ มี 48 เทคโนโลยีที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศจีน นอกจากนี้เทคโนโลยี APA 6.0 ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติไร้คนขับระบบแรก ที่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใช้งานคอยกำกับในระยะประชิด และสามารถขับเคลื่อนผ่านสมาร์ทโฟนแทน นอกจากนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ยังได้สร้างระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบบูรณาการ (Ultra-Integrated Electric Drive System) ที่สามารถลดการใช้น้ำหนักได้ 10% เพิ่มอัตราการจ่ายพลังงานได้ถึง 37% และยังเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก 5% ปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมบิล ได้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะมากกว่า 1.45 ล้านคัน จึงนับได้ว่าเป็นผู้ผลิตแถวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์จีนโดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฉางอัน ออโตโมบิล มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดอยู่ที่ 495% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในแง่ของผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวรถยนต์รุ่น PLUS และ UNI ซีรีส์ของฉางอันถือได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก นับว่าเป็นรุ่นยอดนิยมโดย 43% ของยอดขายรุ่น UNI เกิดจากการที่ผู้บริโภคเลือกซื้อรถยนต์จาก ฉางอัน ออโตโมบิลมากกว่าแบรนด์สากลชั้นนำ โดยในสามปีที่ผ่านมา คุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ของฉางอัน ออโตโมบิล เพิ่มขึ้นถึง 34% ซึ่งมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่องจนยกระดับความสามารถในการแข่งขันเทียบชั้นแบรนด์ระดับสากล ปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมลบิล มีภาพลักษณ์ของผู้ผลิตและผู้ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงอย่างชัดเจน ล่าสุดตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ได้ขายรถยนต์ไปมากกว่า 1 ล้านคัน และด้วยความมุ่งมั่นที่จะขึ้นเป็นผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วย