เป็นการเดินทางแบบสบายๆโดยมุดหมายอยู่ที่เขาใหญ่ด้วยพาหนะคู่ใจในการเดินทางครั้งนี้จะเป็นเมทธีออร์ 350 ซึ่งจะมีทั้ง 3 รุ่นประกอบด้วย Fireball, Stellar และ Supernova ครบสำหรับรุ่นที่ได้ลองขี่ในครั้งนี้จะเป็นรุ่น Supernova ที่เป็นตัวท็อปสุด
การเดินทางจากตึกCW TOWERแถวๆรัชดาภิเษกในช่วงเช้าไม่ได้เร่งรีบมากเพราะมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรงหรือความสวยงามแต่ทำมาเพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด เป็นส่วนผสมของมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สบายในสไตล์คุยเซอร์ ผสานกับรถใช้งานทั่วๆไป อุปกรณ์ที่ใส่มาให้ไม่ได้เยอะแต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน
ยังคงความคลาสสิคแต่ก็ได้ใส่ความทันสมัยเข้าไปในบางจุดอย่างไฟท้ายก็จะเป็นแบบ LED ถังน้ำมันทรงมะละกอฝาปิดถังน้ำมันมาพร้อมฝาปิดตัวล็อค ส่วนช่วงรอยต่อกับเบาะนั่งก็จะมีความโค้งมนลาดต่ำกำลังดีไม่รู้สึกถึงความร้อนที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์
การเดินทางช่วงแรกจะใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ไปยังถนนร่มเกล้าเพื่อไปยังฉะเชิงเทรามุ่งสู่นครนายกซึ่งเป็นการเดินทางที่ไม่ได้เมื่อยล้าจากการออกแบบเบาะนั่งแยกส่วนระหว่างคนขับกับคนซ้อน เบาะคนขับจะเป็นทรงใบบัวที่อยู่ในระดับต่ำทำให้เวลาจอดนิ่งๆสามารถวางเท้าทั้งสองฝั่งได้เต็มฝ่าเท้า เมื่อต้องขับขี่นานๆจะไม่ค่อยเมื่อย ส่วนเบาะคนซ้อนจะยกสูงเพื่อจะได้มองข้างหน้าได้ชัดเจนขึ้น
ในรุ่นท็อปสุดนี้จะได้พนักพิงสำหรับคนซ้อนมาให้ด้วย ส่วนข้างๆจะเป็นสติ๊กเกอร์แปะไว้บอกชื่อรถและชื่อรุ่นแต่ก็ดูดีไม่ลิเกเกินไป พักเท้าจะวางค่อนไปทางข้างหน้าทำให้ได้ท่านั่งคล้ายๆกับนั่งบนเก้าอี้ซึ่งจะได้ความเป็นธรรมชาติมาก
ในระหว่างการเดินทางก็ต้องมองเรื่องข้อมูลซึ่งในรถรุ่นนี้จะมีมาตรวัดมีมาให้ 2 จอโดยจอแรกจะเป็นวงกลมใหญ่อยู่ทางด้านซ้ายจะผสมกันระหว่างมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกที่บอกทั้งกิโลเมตรและไมล์ ส่วนตรงกลางจะเป็นดิจิตอลบอกระดับน้ำมัน ตำแหน่งเกียร์และระยะทาง ส่วนขวามือจอเล็กจะเป็นนาฬิกา ถ้าใครอยากได้ช่องเสียบ USB เพิ่มก็ต้องสั่งเพิ่ม
ไม่เร็วแต่ทรงพลังสำหรับเครื่องยนต์ขนาด349ซีซีที่ดูแลง่าย ใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศ ท่อไอเสียออกทางด้านขวา ให้กำลังสูงสุด 22.2 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีใช้การจ่ายน้ำมันแบบไฟฟ้า สามารถเรียกกำลังออกมาเมื่อต้องการเร่วแซงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบนเขาใหญ่ที่เข้าจากปราจีนบุรี
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ 5 สปีดโดยเกียร์ 5 เป็นเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟเพื่อความประหยัดน้ำมัน จึงต้องจำกัดความเร็วไว้ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับช่วงเดินทางด้วยความเร็วระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเครื่องยนต์จะตอบสนองดีมาก แรงบิดของเครื่องยนต์มีเยอะในแต่ละเกียร์ การใช้เกียร์4จะได้กำลังต่อเนื่องที่สุด
เป็นการผสมผสานกันระหว่างเก่าและใหม่โดยโคมไฟหน้าจะเป็นทรงกลมแบบคลาสสิคมีกระจกบังลมหน้าติดมาให้พร้อม ซึ่งเข้ากันดีกับโคมไฟหน้า ไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED ส่วนไฟหน้าก็จะเป็นหลอดฮาโลเจน ไฟเลี้ยวจะเป็นสีเหลืองที่ดูย้อนอดีต
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิคที่ทนทานขนาด 41 มม. มีระยะยุบ 130 มม. สามารถปรับได้ 6 ระดับและปรับพรีโหลดได้ เมื่อบวกกับแฮนด์ทรงสูงทำให้ดูเหมือนกับการขี่พวกคุยเซอร์ แต่การเกาะถนนจะทำได้ดีกว่ากับการใช้ยาง radial ที่มีหน้าโค้งขนาด 100/90-19 เวลาเข้าโค้งจะทำได้ดีเหมือนพวกเนกเก็ต มั่นใจในการเบรกกับจานเบรคขนาด 300 มม.พร้อม ABS ส่วนล้อก็จะเป็นล้อแม็ก 10 ก้านที่มีแถบสีแดงอยู่ตรงขอบล้อ
ด้านหลังจะเจอท่อไอเสียทรงกระบอกเป็นท่อสแตนเลสให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบกันสะเทือนหลังเป็นโช๊คอัพคู่ใช้ยางหลังขนาด 140/70 ขอบ 17 พร้อมจานเบรคขนาด 270 มม. มั่นใจในการเบรกกับระบบเบรก ABS แบบ 2 channel ทำให้เมทธีออร์ 350 เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความคล่องตัว เมื่อเจอรถติดๆก็สามารถมุดเข้าซอกได้ง่ายหรือจะใช้เดินทางไกลข้ามจังหวัดก็ไม่มีปัญหาสามารถเดินทางผ่านเขาใหญ่ถึงจุดกางเต็นท์ที่K2 หมูสีได้อย่างสบายๆ