แม้ว่าการพัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริดของค่ายรถยนต์จากยุโรปจะมาช้ากว่าค่ายญี่ปุ่น แต่ก็ต้องยอมรับว่ารถยนต์จากแถบนี้จะแรงกว่าเยอะโดยเฉพาะค่ายบีเอ็มดับเบิ้ลยู ถึงจะเป็นรถยนต์ไฮบริดแต่เรื่องความแรงนั้นต้องยกนิ้วให้ จากที่ได้ลองขับบีเอ็มดับเบิ้ลยู 330e M Sport มานั้น ตอนกดคันเร่งพลังที่ถูกปล่อยออกมานั้นแรงไม่แพ้พวกรถสปอร์ต แม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถตลาดในแบบซีดาน 4 ประตูก็ตาม
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ สืบทอดรูปโฉมที่ทันสมัยและปราดเปรียวของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ซีดานใหม่ ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่งและคมชัด ด้านหน้าของตัวรถคือกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ในกรอบที่เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาว ส่งเสริมรูปลักษณ์ความสง่าแบบรถสปอร์ตให้โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยกรอบหน้าต่างที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่เรียวยิ่งขึ้นในรูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
การออกแบบสไตล์ M Sport ของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 เสริมความโดดเด่นคล่องแคล่วบนท้องถนนด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของรถยนต์ กระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษบริเวณซี่กระจังหน้าไตคู่สีดำเงาและขอบช่องดักอากาศแบบสี Chrome เพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่าง Adaptive M มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic และคาลิเปอร์เบรกแบบ M Sport
ด้วยแนวคิดในเรื่องการใช้พลังงานให้คุ้มค่า330e M Sport จึงถูกออกแบบมาให้กินน้ำมันพอๆกับรถเก๋งขนาดเล็ก ด้วยการใช้มอเตอร์เข้ามาช่วย ซึ่งถ้าสังเกตดีๆในช่วงความเร็วต่ำนั้นระบบจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานทันทีโดยไม่ต้องไปนั่งปรับเปลี่ยนโหมดให้เสียเวลาหากมีพลังไฟพอ ตรงแก้มหน้าซึ่งอยู่ตรงหลังบังโคลนล้อหน้าก็จะมีฝาปิดอยู่ เปิดออกมาก็จะเจอกับช่องชาร์จไฟที่สามารถเสียบกับไฟบ้านได้ เมื่อไฟเต็มจะสามารถเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึง55-68 กิโลเมตรมากกว่ารุ่นก่อน 50 เปอร์เซ็นต์
การเสียบชาร์จก็ทำได้ง่ายด้วยสายชาร์จที่ติดตั้งมาให้ โดยใช้การชาร์จกับไอวอลล์บ็อกที่ติดตั้งแยกต่างหากจากไฟบ้านก็จะเพิ่มกำลังและลดระยะเวลาในการชาร์จให้น้อยลงได้ เมื่อเดินทางไปบางสถานที่ก็จะมีสถานีชาร์จไฟเอาไว้รองรับด้วยที่ชาร์จไฟสาธารณะ ซึ่งในอนาคตก็จะมีเพิ่มมากขึ้นทำให้สะดวกในการใช้งานรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด หากบริหารดีๆก็แทบจะไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ตอนที่จอดรถก็จะเข้าสู่โหมดไฟฟ้าซึ่งเครื่องยนต์จะดับ แต่ถ้าเกิดคนขับออกไปจากรถโดยติดกุญแจไปด้วยภายในรถก็จากขาดความเย็นจากเครื่องปรับอากาศเนื่องจากเครื่องยนต์ที่ดับด้วย จากการที่เป็นรถยนต์ไฮบริดที่สามารถต่อปลั๊กไฟบ้านเพื่อชาร์จไฟ บีเอ็มดับเบิลยู 330อี จึงมีโหมดการขับขี่หลากหลาย ช่วยให้คนขับควบคุมอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานจริงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือกและพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ การขับขี่ในเมืองเมื่อชาร์ตแบตเตอรี่จนเต็มจะสามารถขับขี่ได้ในระยะทางถึง55-68 กิโลเมตรโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงแต่อย่างใด
การขับขี่ในชีวิตประจำวันจะมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ 22.2 ถึง 28.6 กม./ลิตร จึงเห็นได้ชัดว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่ำกว่ารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันจึงสามารถสนุกกับสมรรถนะอันเร้าใจพร้อมความประหยัดเชื้อเพลิง การขับขี่ในระยะทางไกลจะสนุกกับการขับขี่ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยรวมที่ 14.3 กม./ลิตร โดยประมาณขึ้นอยู่กับสถานะการชาร์จแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูง
บีเอ็มดับเบิลยู330 อี ในรุ่นเอ็มสปอร์ตนั้น เป็นนวัตกรรมที่ครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหรา ได้รับการออกแบบเพื่อสุนทรียะในการขับขี่ของผู้โดยสาร ประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วย XtraBoost ฟังก์ชั่นใหม่ที่จะเผยสมรรถนะสูงสุดของรถยนต์ออกมา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ที่ทรงพลัง ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่5,000-6,500รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 300นิวตันเมตรที่1,350-4,250รอบต่อนาที สู่ล้อรถได้อย่างราบรื่นในทุกรอบเครื่อง ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะที่พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาที
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุด292 แรงม้า ให้เร่งความเร็วได้อย่างใจนึก ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 47.6 กิโลเมตรต่อลิตรและสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost และปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 30 กิโลวัตต์ / 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ในโหมดการขับขี่แบบ HYBRID ของบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 30 กม./ชม. โดยใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นการใช้พลังงานเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันในโหมด ELECTRIC ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. มากกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้ 120 กม./ชม.
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบสเต็ปทรอนิคจะปรับการขับขี่ให้เหมาะกับสไตล์ของแต่ละบุคคลอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การเคลื่อนที่ช้า ๆ สบาย ๆ ไปถึงการเคลื่อนที่เร็ว นอกจากการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแล้วยังสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา โดยมีตัวบ่งชี้การเปลี่ยนเกียร์ ให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยใช้คันเกียร์สั้นหรือก้านเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงที่พวงมาลัยเป็นส่วนเสริมอีกด้วย สำหรับสปอร์ต โหมดมีการออกแบบเกียร์เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การเปลี่ยนความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เร่งความเร็วได้เต็มที่ โดยที่เครื่องยนต์จะคงความเร็วไว้ในระดับที่ยังขับขี่ได้อย่างเต็มพลัง และด้วยการใช้งาน Launch Control จะควบคุมความเร็วตั้งต้นของเครื่องยนต์ให้คุณเร่งความเร็วได้อย่างสูงสุดตั้งแต่ออกตัว ในระดับความเร็วสูง เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบสเต็ปทรอนิค จะลดความเร็วเครื่องยนต์และลดการเผาผลาญเชื้อเพลิง ซึ่งมีคอนเวอร์เตอร์คลัทช์ในการทำงานด้วย เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สเต็ปทรอนิคทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อให้เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่สะดุด และเกิดประสิทธิภาพและพลังงานสูงสุด
เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยความสะดวกสะบายและความหรูหราในห้องโดยสารที่ประกอบด้วยพวงมาลัยหนังแท้ M กาบบันไดและชุดแป้นวางเท้า เพดานหลังคาภายในสี Anthracite และอีกมากมาย
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถสามารถจดจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ Parking Assistant Plus มาพร้อมกับกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera รวมทั้งวิวด้านบน วิวพาโนรามิค และรีโมท 3D วิวที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อเพื่อดูภาพของรถที่จอดทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ ผ่านระบบ BMW ConnectedDrive