รถยนต์นั่งขนาดกลางในเมืองไทยในปัจจุบันมีตัวเลือกน้อยถ้าเป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นก็จะมีแค่ฮอนด้า นิสสันและโตโยต้าส่วนมิตซูบิชินั้นได้เลิกรากันไปเนื่องจากตลาดแคบลงจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ยิ่งเป็นคัมรี่มีการขยับฐานสูงขึ้นจนเกินล้านกลางๆไปแล้ว ส่วนรุ่นต่ำสุด 2.0ลิตรราคาก็เกินล้าน ไม่เหมือนเมื่อก่อนรถขนาดกลางราคายังไม่ถึงล้านเลย การนำรุ่นไฮบริดมาเป็นไฮไลต์ของคัมรี่เป็นเพราะทางโตโยต้าต้องการให้เป็นรถที่กินน้ำมันน้อยลงด้วยการเสริมมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไป แต่เรื่องการใช้งานจะได้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากรุ่นธรรมดา
เรื่องของหน้าตาก็มีการบ่งบอกถึงความเป็นรถไฮบริดได้ขัดเจน นอกเหนือไปจากตัวหนังสือก็จะมีสีฟ้าตรงโลโก้ ส่วนโคมไฟสีฟ้าไม่มีให้เห็นเหมือนรุ่นก่อน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือเบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ ทำให้ได้ท่านั่งที่ผ่อนคลายเวลาเดินทาง พร้อมกับอากาศเย็นๆจากช่องแอร์ด้านหน้าและด้านข้างตรงกลางเบาะหลังจะมีที่วางแขนพับเก็บไว้ในพนักพิง เป็นที่รวมของปุ่มควบคุมทั้งเบาะนั่ง เครื่องเสียงและเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังปรับเบาะผู้โดยสารตอนหน้าจากด้านหลังได้ด้วย
เข้าไปในรถได้ง่ายๆเมื่อมีกุญแจพกติดตัว การกดปุ่มสตาร์ททำได้เลยแต่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ดังออกมาเนื่องจากใช้เพียงกระแสไฟจากแบตเตอรี่ไฮบริดที่เก็บซ่อนไว้ด้านหลังอยู่ สามารถเปิดแอร์ได้ เครื่องยนต์จะทำงานก็ต่อเมื่อเหลือกำลังไฟน้อยเกินไป
พวงมาลัยใช้การปรับด้วยไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของแต่ละคน ปรับสูงต่ำหรือดึงเข้า-ออกได้พร้อมการบันทึกข้อมูลทำให้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งปรับตรงจอมาตรวัดมีเยอะจะขาดก็แต่วัดรอบ ยังมีการแสดงผลเอาไว้ที่จอกลางของเครื่องเล่นดีวีดีที่มีระบบนำทางติดตั้งไว้ให้พร้อม มีการแสดงผลของแหล่งพลังงานที่ใช้ตอนเดินทางว่ามาจากส่วนไหนด้วย
เครื่องยนต์รหัส 2 AR-FXE แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2.5 ลิตร พร้อมวาล์วแปรผัน VVT-I ถูกเลือกใช้ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันกับรุ่น 2.5 ลิตร ธรรมดา แต่มีกำลังน้อยกว่า เนื่องจากใช้ระบบวาล์วแปรผันไอดีเพียงฝั่งเดียว เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 5,700รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที กำลังเสริมจะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าถูกปรับระบบเกียร์ทดให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบา แต่สามารถรองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้นได้ ใช้มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้า 650 โวลต์ มีกำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 0-1,500 รอบต่อนาที
แบตเตอรี่ไฮบริดมีน้ำหนักเบาขึ้น เป็นแบตเตอรี่ นิเกิลเมทัลไฮดราย แรงดันไฟ 245 โวล์ต 34 โมดูล 204 เซลล์ให้ความจุไฟฟ้า6.5แอมป์ ถึงจะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยแต่อัตราเร่งของคัมรี่ไฮบริดจะด้อยกว่ารุ่นธรรมดา ส่วนหนึ่งป็นผลมาจากการใช้เกียร์ อี- ซีวีทีและกำลังของเครื่องยนต์ที่ด้อยกว่า ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าที่เลือกคัมรี่ไฮบริดเพราะต้องการความประหยัด การเร่งแซงแบบดุเดือดนั้นคงจะมีโอกาสยาก ยิ่งมีผู้บริหารนั่งด้านหลังการขับให้นุ่มแบบสุด ๆ ควรจะทำมากกว่า
อัตราเร่งมาต่อเนื่องแบบเกียร์ ซีวีที การขับที่ประหยัดสุดก็คือวิ่งแถบ ๆ ชานเมือง หากเข้าเมืองก็แบบไหล ๆ บ้างไม่ถึงกับหยุดนิ่งอยู่กับที่นาน ๆ เห็นได้ชัดกับอัตราบริโภคเมื่อออกนอกเมืองที่มีรถเยอะ ๆ ใช้การขับแบบเหยียบแล้วยกสามารถชาร์จไฟเก็บไว้ในแบตเตอร์รี่ได้ ถึงจะใช้ความเร็วระดับ 120 กม./ชม อัตราบริโภคยังทำได้ถึง 18.2 กม./ลิตร เจอถนนโล่ง ๆ ใช้ความเร็วคงที่มีเร่งแซงบ้าง อัตราบริโภคจะลดลง หากเดินทางไกล การใช้ครูซคอนโทรลให้มีความเร็วคงที่จะเหมาะสมกว่า เครื่องยนต์จะใช้สร้างกำลังและปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอร์รี่ในเวลาเดียวกัน
ไม่เหมาะเลยก็คือการขับด้วยความเร็วสูง เร่งแซงอยู่ตลอด กำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าถูกใช้ควบคู่กันทำให้ความเร็ว 170-180 กม./ชม. อัตราบริโภคลดต่ำลงเหลือระดับ10 กม./ลิตรเท่านั้นเอง ช่วงล่างของไฮบริดจะปรับให้นุ่มนวลกว่าทำให้นั่งสบายแต่เวลาเบรกหน้าจะทิ่มมากกว่า จึงต้องค่อย ๆ แตะเบรกเพื่อให้ความนุ่มนวลและได้เวลาชาร์จไฟเพิ่มขึ้นด้วย